CIVIL ไตรมาสแรกฟอร์มดีต่อเนื่องรับงานใหม่ 9 โครงการ-ลุ้นประมูลงานใหญ่

CIVIL ไตรมาสแรกฟอร์มดีต่อเนื่องรับงานใหม่ 9 โครงการ-ลุ้นประมูลงานใหญ่

CIVIL เผยแนวโน้มธุรกิจไตรมาส 1/65 โตต่อเนื่อง เดินหน้าโครงการก่อสร้างตามแผน รับงานใหม่ 9 โครงการ มูลค่ารวม 228 ล้านบาท พร้อมลุ้นงานเมกะโปรเจกต์ เติม Backlog ขณะที่งบปี 64 รายได้รวม5,063 ล้านบาท กำไรสุทธิ 193 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 122% บอร์ดอนุมัติปันผลเพิ่ม 0.02 บาทต่อหุ้น

นายปิยะดิษฐ์ อัศวศิริสุข ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ซีวิลเอนจีเนียริง จำกัด (มหาชน) หรือ CIVIL ผู้นำด้านวิศวกรรมโยธาที่ใช้เทคโนโลยีก่อสร้างแบบครบวงจรชั้นนำของไทย เปิดเผยว่า ทิศทางการดำเนินธุรกิจช่วงไตรมาส 1/65 มีแนวโน้มที่ดีจากการรับรู้รายได้โครงการก่อสร้างต่างๆเข้ามาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังสามารถประมูลงานโครงการใหม่เข้ามาเพิ่มเติม

ทั้งนี้ บริษัทได้เซ็นสัญญาเข้ารับงานใหม่จำนวน 9 โครงการ มูลค่ารวม 228 ล้านบาท โดยเป็นงานประเภทงานก่อสร้างทางหลวง, งานก่อสร้างระบบประปา และ งานเสริมผิวแอสฟัลต์คอนกรีต อาทิ งานก่อสร้างทางหลวงชนบทเพื่อการท่องเที่ยว บ้านหาดสำราญ – ตะเสะ ตอนที่ 2, งานก่อสร้างทางหลวง 347  บางปะหัน - เจ้าปลุก ตอน 2, งานก่อสร้างทางหลวงชนบท สายอย.4055 ทางหลวง 3267-บ้านตาลเอนอ.มหาราช และ งานก่อสร้างทางหลวง 4034 ปากน้ำกระบี่-เขาทอง ตอนที่ 1 เป็นต้น ซึ่งเริ่มดำเนินการก่อสร้างแล้วในไตรมาส 1/65 และคาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้ทั้งหมดในปี 2565

“บริษัทมุ่งเน้นการจัดการโครงการที่มีประสิทธิภาพ ด้วยทีมบุคลากรที่มีความชำนาญในวิศวกรรมโยธาเครื่องจักรอุปกรณ์สมัยใหม่ และ นำเทคโนโลยีเข้ามาบริหารงานก่อสร้างให้เป็นไปตามแผน ส่งผลให้หลายโครงการของบริษัทสามารถก่อสร้างแล้วเสร็จพร้อมส่งมอบก่อนกำหนด ขณะเดียวกันยังมีการติดตามต้นทุนโครงการอย่างใกล้ชิด พร้อมปรับแผนการทำงานให้สอดรับกับสถานการณ์ต้นทุนต่างๆ ที่มีการผันแปรเพื่อรักษาความสามารถในการทำกำไรของบริษัทให้อยู่ในเกณฑ์ดี

นอกจากนี้ CIVIL ยังมีความพร้อมเข้าประมูลและรับงานทั้งภาครัฐ เอกชนอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทอยู่ในช่วงการรอผลการประมูลโครงการเมกะโปรเจกต์ คาดว่าจะมีความชัดเจนขึ้นในช่วงไตรมาส 2/65 ซึ่งงานดังกล่าวจะสามารถเพิ่มเติมมูลค่างานในมือให้เพิ่มขึ้นเป็นสถิติสูงสุดตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท” นายปิยะดิษฐ์กล่าวเพิ่มเติม

ขณะที่ผลประกอบการปี 2564 บริษัทมีรายได้รวม 5,063 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีรายได้รวม4,130 ล้านบาท จำนวน 933 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้น 23% และ มีกำไรสุทธิ 193 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 87 ล้านบาท จำนวน 106 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 122%

อีกทั้ง คณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติเสนอจ่ายเงินปันผลเพิ่มในอัตราหุ้นละ 0.02 บาท คิดเป็นจำนวนเงิน 14 ล้านบาท โดยกำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 3 พ.ค. 2565 กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 5 พ.ค. 2565 และกำหนดจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในวันที่ 20 พ.ค. 2565 ซึ่งมติดังกล่าวเตรียมนำเสนอเพื่อขออนุมัติจากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2565 ในวันที่ 25 เม.ย. 2565 เพื่อพิจารณาต่อไป

ข่าวเกี่ยวข้อง